การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านเศรษฐกิจและบรรษัทภิบาล
ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว องค์กรของเรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจหลักตามเป้าหมายการพัฒนายั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) และมาตรฐาน GRI ด้วยความรับผิดชอบและความโปร่งใส ควบคู่ไปกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการบริหารความเสี่ยงที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม เรามีความมุ่งมั่นสร้างคุณค่าเศรษฐกิจ อย่างแท้จริงเพื่อตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
Corporate Governance

Enterprise Risk Management
Business Development and Resilience
Innovation Transformation
Product & Service Stewardship
Supply chain Management
การปฏิบัติตามกฎหมายด้านการกำกับดูแลกิจการ สังคม และสิ่งแวดล้อม
บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน)ได้กำหนดมาตรฐานจรรยาบรรณทางธุรกิจและมาตรการต่อต้านทุจริต โดยเน้นความซื่อสัตย์โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ทั้งยังส่งเสริมให้มาตรฐานนี้กลายเป็นค่านิยมหลักของ องค์กรควบคู่ไปกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนจากภายในองค์กร
ผลการดำเนินงาน
ปี 2567 ไม่พบเหตุการณ์ คดี หรือข้อพิพาทที่มีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือการดำเนินธุรกิจขององค์กร รวมถึงไม่มีค่าปรับที่กระทบต่อความสามารถในการบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ
หมายเหตุ:
"ข้อพิพาทหรือคดีที่มีนัยสำคัญ" หมายถึง ข้อพิพาททางกฎหมาย หรือคดีความที่เกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อองค์กร บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถพิจารณาความสำคัญของข้อพิพาทหรือคดีตามปัจจัยต่างๆ เช่น
- มูลค่าทางการเงิน – คดีหรือข้อพิพาทที่มีมูลค่าความเสียหายสูง หรืออาจกระทบต่อฐานะทางการเงินขององค์กร
- ผลกระทบทางกฎหมายและข้อบังคับ – คดีที่อาจส่งผลต่อสถานะทางกฎหมายหรือสิทธิขององค์กร อาทิ การเพิกถอนใบอนุญาตหรือการเสียสิทธิทางกฎหมาย
- ผลกระทบต่อชื่อเสียง – ข้อพิพาทหรือคดีที่อาจทำให้ชื่อเสียงขององค์กรเสื่อมเสีย หรือกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย
- ผลกระทบต่อการดำเนินงาน – คดีที่อาจทำให้เกิดการหยุดชะงักของกระบวนการทางธุรกิจ หรือการปฏิบัติงานในองค์กร
- ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย – คดีที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย แนวทางการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงาน ได้ในหัวข้อ “การกำกับดูแลกิจการ” และ”ผลการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการ” รายงานประจำปี 2566 แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2566 (แบบ 56-1 One Report)
การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ผู้มีส่วนได้เสีย
บริษัทฯ มุ่งประกอบกิจการโดยคำนึงถึง ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย มิได้มุ่งเน้นเพียงผลกำไร แต่ให้ความสำคัญกับ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปัน และการสร้างการมีส่วนร่วม
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- เงินเดือน ค่าจ้าง และสวัสดิการ
- เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลและพัฒนาพนักงาน
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- ค่าจ้างผู้รับเหมา
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ อื่นๆ
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- ดอกเบี้ย
- ค่าใช้จ่ายด้านการเงิน
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- เงินปันผล
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- ค่าธรรมเนียมภาครัฐ
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล
- ภาษีบำรุงท้องถิ่น
- ภาษีโรงเรือน
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีอื่นๆ
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับ
- งบประมาณในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม
ในปี 2567 บริษัทฯ มีการกระจายรายได้ไปแก่ผู้ส่วนได้เสียพอสังเขปดังนี้
- การจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นรวม 280.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.91% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจที่กระจายให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
- การลงทุนด้านการพัฒนาชุมชนและสังคมรวม 5.58 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.32% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจที่กระจายให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
- การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมรวม 3.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.23% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจที่กระจายให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
หมายเหตุ:
บริษัทฯ สามารถอ่านเนื้อหาด้านการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ผู้มีส่วนได้เสียเพิ่มเติมได้ใน รายงานความยั่งยืนประจำปี 2567
นวัตกรรมและการพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการพัฒนากระบวนการทำงาน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรอย่างยั่งยืน การนำเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการดำเนินงานช่วยให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด "Digital Transformation และ Smart Operations" บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Data Analytics) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงาน ลดข้อผิดพลาด และสร้างกระบวนการทำงานที่รวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น
ผลการดำเนินงาน
บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายและผลการดำเนินงานด้านนวัตกรรมและการพัฒนากระบวนการทำงาน ครอบคลุม 3 โครงการหลัก ดังนี้
เป้าหมายสำคัญ 3 โครงการหลัก | ผลการดำเนินงานปี 2566 | ผลการดำเนินงานปี 2567 | เป้าหมายในปี 2572 |
---|---|---|---|
1) โครงการ “Digital Transformation” “ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างน้อยร้อยละ 10” |
ศึกษาความเป็นไปได้และความคุ้มค่าของโครงการ Digital Transformation และเริ่มดำเนินการขึ้นระบบ SAP เฟส 1 | เตรียมการเพื่อขึ้นระบบ SAP สำหรับเฟส 2 | นำระบบ ERP และ Digitalization มาประยุกต์ใช้กับบริษัทย่อยทุกบริษัท รวมถึงการนำข้อมูลแบบ Real Time มาวิเคราะห์และตัดสินใจ เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด |
2) โครงการ “Automation” “มูลค่าการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับระบบ Automation เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ภายในปี 2572” |
ศึกษาความเป็นไปได้และความคุ้มค่าของการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับระบบ Automation | ลงทุนในระบบ Automation ของส่วนงาน Filling เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต | ลงทุนในโครงการ Lube Modernization Project เพื่อยกระดับกระบวนการผลิต โดยปรับปรุงระบบการทำงาน เปลี่ยนกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การดำเนินงานรวดเร็ว ยืดหยุ่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน |
3) โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีนวัตกรรมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเมกาเทรนด์ “จำนวนผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือ SKU ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเมกะเทรนด์ จำนวน 5 SKU ต่อปี” |
เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่:
|
พัฒนาผลิตภัณฑ์ Bio-Based Lubricant ที่พัฒนามาจาก Palm Oil ผ่านความร่วมมือกับ สวทช. และผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าและน้ำมันผสมยาง | ลงทุน Project RRBO ควบคู่กับการพัฒนาเครือข่าย Used Lube Collection เพื่อเสริมความยั่งยืนทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม |
หมายเหตุ:
สามารถอ่านเนื้อหาด้าน “นวัตกรรมและการพัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ” เพิ่มเติมได้ใน รายงานความยั่งยืนประจำปี 2567
ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์และบริการ
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดีและบริการที่มีประสิทธิภาพ บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรฐานคุณภาพที่ชัดเจนและสูงสุดตามหลักเกณฑ์สากล โดยดำเนินการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพเป็นประจำ
ผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานคุณภาพสูงสุดของผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดให้มีช่องทางรับข้อร้องเรียนที่เข้าถึงได้ตลอดเวลาเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เพื่อรักษาระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ที่ มากกว่าร้อยละ 80 และให้ มากกว่าร้อยละ 95 ภายในปี 2572 ต่อไป
หัวข้อ | 2566 | 2567 | เป้าหมาย 2572 |
---|---|---|---|
จำนวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัวของลูกค้าที่มีนัยสำคัญ (PDPA) | 0 | 0 | 0 |
จำนวนข้อร้องเรียนด้านผลิตภัณฑ์และบริการในภาพรวมที่มีนัยสำคัญ | 0 | 0 | 0 |
จำนวนเหตุการณ์การละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรฐานหรือคุณภาพผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีนัยสำคัญ | 0 | 0 | 0 |
ความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท (ร้อยละ) | |||
1. ความพึงพอใจของลูกค้าด้านบริการส่งมอบสินค้า | 92.75% | 92.90% | 95% |
2. ความพึงพอใจของลูกค้าด้านบริการคลังเก็บน้ำมัน | 96.71% | 99.16% | 95% |
การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) โดยเฉพาะคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ เป็นธรรม โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติ ยึดหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งพัฒนาขีดความสามารถร่วมกันอย่างยั่งยืน
ผลการดำเนินงาน
1) การกำหนดกรอบการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (Supplier Due Diligence Framework)
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้กำหนดกรอบการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล เพื่อใช้เป็น เกณฑ์ในการพิจารณาคู่ค้ารายใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าคู่ค้าที่บริษัทฯ จะร่วมงานด้วยนั้น มีการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร โดยมีกรอบการประเมินที่ประกอบด้วยเกณฑ์หลัก ดังตัวอย่างเช่น:
ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) | ด้านสังคม (Social) | ด้านบรรษัทภิบาล (Governance) |
---|---|---|
|
|
|
การใช้กรอบการประเมินนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถคัดเลือกคู่ค้ารายใหม่ที่มีมาตรฐานสอดคล้องกับแนวทางขององค์กร ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจร่วมกัน และสร้างความมั่นใจว่าห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ สนับสนุนการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว ทางบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มใช้เกณฑ์ประเมินดังกล่าวกับคู่ค้ารายใหม่ทุกรายตั้งแต่ปี 2568 โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมกลุ่มคู่ค้ารายปัจจุบันที่มีสถานะ “ACTIVE” ครบร้อยละ 100 ภายในปี 2572 ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าของผลการดำเนินงานในรายงานความยั่งยืนในปีถัดไป
2) การจัดกลุ่มคู่ค้า
บริษัทฯ ได้ทำการจัดกลุ่มคู่ค้าแยกตามประเภทของสินค้าหรือวัตถุดิบที่นำมาใช้ในกระบวนผลิตออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
- กลุ่มวัตถุดิบหลัก ซึ่งถูกแบ่งเป็น ADDITIVE และ BASE OIL ที่ซื้อจากคู่ค้าทั้งจากภายในและต่างประเทศ
- กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ที่ซื้อจากคู่ค้าทั้งจากภายในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดทำการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายที่มีต่อคู่ค้าตามหลัก Spent Analysis เพื่อจัดอันดับความสำคัญของคู่ค้าแต่ละรายผ่านการใช้จ่ายต่อปี และนำไปแบ่งกลุ่ม พร้อมทั้งทำการประเมินประสิทธิภาพและคุณภาพของสินค้าและการบริการ
สรุปการประเมินความสำคัญเพื่อจัดกลุ่มคู่ค้าแบ่งตามประเภทของสินค้าหรือวัตถุดิบ ประจำปี 2567
ตารางที่ 1 กลุ่มวัตถุดิบหลัก
ประเภทวัตุดิบหรือสินค้า | จำนวนคู่ค้าทั้งหมด | จำนวนคู่ค้ารายสำคัญทั้งหมด 1 | ||
---|---|---|---|---|
ภายในประเทศ | ต่างประเทศ | ภายในประเทศ | ต่างประเทศ | |
1) ADDITIVE | 58 | 29 | 7 | 7 |
จำนวนคู่ค้ารวม | 87 | 14 | ||
2) BASE OIL | 14 | 14 | 3 | 6 |
จำนวนคู่ค้ารวม | 28 | 9 |
ตารางที่ 2 กลุ่มบรรจุภัณฑ์
ประเภทวัตุดิบหรือสินค้า | จำนวนคู่ค้าทั้งหมด | จำนวนคู่ค้ารายสำคัญทั้งหมด 1 | ||
---|---|---|---|---|
ภายในประเทศ | ต่างประเทศ | ภายในประเทศ | ต่างประเทศ | |
1) บรรจุภัณฑ์ | 62 | 5 | 9 | 0 |
จำนวนคู่ค้ารวม | 67 | 9 |
หมายเหตุ:
บริษัทฯ 1 คือจำนวนคู่ค้าที่ผ่านกระบวนวิเคราะห์ความสำคัญตามหลักการ Spent Analysis แต่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ด้าน ESG (Supplier Due Diligence) ซึ่งจะมีการดำเนินการในปีถัดไป
3) การบริหารจัดการคลังวัตถุดิบเพื่อลดต้นทุนการบริหาร
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัทฯ ครอบคลุมถึงการบริหารจัดการคลังวัตถุดิบอย่างเป็นระบบ ซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์และศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) โดยมุ่งเน้นให้เกิดการดำเนินงานตามแนวทางดังต่อไปนี้:
การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทฯ ได้ดำเนินการวางแผนการใช้วัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสีย (Material Loss) และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บวัตถุดิบ โดยนำแนวทาง Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต
การควบคุมและตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ
บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายและมาตรฐานในการคัดเลือกและจัดเก็บวัตถุดิบ โดยให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล เช่น ISO 14001 (Environmental Management System) และ FSC (Forest Stewardship Council) สำหรับวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรป่าไม้ เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุดิบที่ใช้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการคลังวัตถุดิบให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) รวมถึงการใช้วัตถุดิบที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ เช่น การเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycled Materials) และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในการจัดเก็บและขนส่งวัตถุดิบ
การบริหารจัดการคู่ค้าอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับคู่ค้าที่มีนโยบายหรือหลักปฏิบัติที่สอดคล้องกับการพัฒนาความยั่งยืน โดยกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการคัดเลือกคู่ค้า เช่น การมีแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน และการสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกกระบวนการในห่วงโซ่อุปทานมีความโปร่งใสและเป็นธรรม บริษัทฯ กำลังศึกษาการจัดทำ Supplier Due Diligence เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจร่วมกับคู่ค้า โดยคำนึงถึงหลักจริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการจัดหาและบริหารจัดการซัพพลายเชนเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และเป็นธรรม ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งหวังให้คู่ค้ามีการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิทธิมนุษยชน สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการบริหารจัดการคลังวัตถุดิบ
บริษัทฯ ได้นำระบบ Automation รวมทั้งระบบ Inventory Forecasting และ IoT (Internet of Things) มาใช้ในการติดตามและบริหารจัดการวัตถุดิบแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการบริหารสต็อก ลดความสูญเสียจากการเก็บรักษา บริหารต้นทุนอย่างมีคุณภาพ และปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการบริหารจัดการ ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างยืดหยุ่น
การส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรด้านความยั่งยืน
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกด้านความยั่งยืนให้กับพนักงาน โดยจัดอบรมและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการลดของเสีย การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามมาตรฐานความยั่งยืน เพื่อให้พนักงานทุกระดับสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร
นโยบายและแนวทางเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบการจัดการคลังวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างคุณค่าทางธุรกิจอย่างยั่งยืนให้กับองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว
ผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการบริหารจัดการคลังวัตถุดิบเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้ เกินร้อยละ 15 ของรายได้สุทธิภายในปี 2572 และจะรายงานผลการดำเนินงานต่อไป