ทำความรู้จัก P.S.P. Specialties หนึ่งในผู้นำการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์หล่อลื่นชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน | P.S.P. Specialties

ทำความรู้จัก P.S.P. Specialties หนึ่งในผู้นำการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์หล่อลื่นชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน

ทำความรู้จัก P.S.P. Specialties หนึ่งในผู้นำการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์หล่อลื่นชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน PSP x ลงทุนแมน

หากพูดถึงผลิตภัณฑ์หล่อลื่น หลายคนคงนึกถึงการใช้งานกับรถยนต์หรือยานพาหนะเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงการทำงาน ไม่ใช่เฉพาะกับยานพาหนะ แต่สำหรับเครื่องจักรอีกด้วย เพราะในอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้เครื่องจักร ล้วนต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในการขับเคลื่อนกระบวนการต่าง ๆ

ความน่าสนใจของธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น คือ เมื่อมองภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนพบว่า หลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว ตลอดจนได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน (Household Consumption) ที่สูงขึ้น

โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศในอาเซียน สำหรับปี 2565 – 2569 มีการคาดการณ์ว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 5.3% ส่วนเศรษฐกิจในประเทศไทยสำหรับปี 2565 – 2569 มีการคาดการณ์ว่าอัตราการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 3.5% และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 3.6% นอกจากนี้ จำนวนยานพาหนะในประเทศไทย สำหรับปี 2565 – 2569 คาดการณ์ว่ามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 9.0%

ตลอดจนการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์หล่อลื่นโดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะและการใช้เครื่องจักรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีขนาดใหญ่ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก และมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในการผลิตสูง

ปัจจัยทั้งหมดนี้จึงทำให้ปริมาณความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสูงขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ถ้าพูดถึงบริษัทพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่มีปริมาณการผลิต และส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในไทย ต้องมีชื่อของ บมจ. พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ หรือ PSP ติดอันดับอย่างแน่นอน

โดย PSP เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานของทั้งอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และมีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งในด้านอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

การดำเนินธุรกิจของ PSP ซึ่งเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่นของไทย และทิศทางการเติบโตไปพร้อมเทรนด์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต น่าสนใจมากแค่ไหน ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

PSP ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 ในบทบาทของผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Oil) ต่อมาได้เริ่มดำเนินธุรกิจเป็นผู้พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ

ปัจจุบัน PSP มีธุรกิจหลักแบ่งเป็น 3 ประเภท ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบจนถึงการบริการจัดการด้านโลจิสติกส์ และบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจแรกคือ ธุรกิจพัฒนาและผลิตน้ำมันหล่อลื่น จาระบี และผลิตภัณฑ์พิเศษ เช่น น้ำมันผสมยาง น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์หรือเครื่องจักร ซึ่งมีจำนวนสูตรการผลิต รวมมากกว่า 1,000 สูตร

โดย PSP เป็นผู้พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์อิสระ (Independent Manufacturer) ที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศไทย (อ้างอิงจากรายงานของ Kline ณ 25 ก.ค. 65) เมื่อพิจารณาจากปริมาณการผลิตในน้ำมันหล่อลื่น (Lubricant) น้ำมันผสมยาง (Rubber Process Oil) และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Oil) และมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในตลาดน้ำมันหล่อลื่น (Lubricant) น้ำมันผสมยาง (Rubber Process Oil) น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer Oil) ในปี 2564 ในประเทศไทย

ต่อมาคือ ธุรกิจตัวแทนจำหน่าย (Authorized Distributor) ซึ่งเป็นธุรกิจแรกของบริษัทที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุดิบและสินค้าที่บริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจซื้อมาขายไป และเป็นตัวแทนจำหน่าย เช่น น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (Base oil) สารเติมแต่ง (Additive) บรรจุภัณฑ์ และสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งยังรวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายสารเติมแต่ง (Additive) แบรนด์ Chevron Oronite ซึ่ง Chevron Oronite เป็น 1 ใน 4 ของผู้ผลิตสารเติมแต่ง (Additive) ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากที่สุดในระดับสากล และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในสินค้าและบริการของ Authentix ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตรวจสอบและรับรองสินค้าระดับสากล ผ่านบริษัทย่อยได้แก่ U.C. Marketing

ธุรกิจสุดท้ายคือ ธุรกิจการให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 4 บริการ

บริการแรก คือการให้บริการพัฒนาและรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นกรณีที่ลูกค้าให้ PSP พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เท่านั้น โดยลูกค้าเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบเอง

บริการที่สอง คือการให้บริการศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิง (Terminalling) ซึ่งประกอบด้วย การให้บริการคลังน้ำมันเชื้อเพลิง และบริการจัดการขนถ่ายน้ำมันผ่านศูนย์กระจายน้ำมันเชื้อเพลิง (Terminalling) ของบริษัทฯ ให้แก่ลูกค้าชั้นนำ เช่น ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก เอสโซ่ บางจาก และคาลเท็กซ์

บริการที่สาม คือการให้บริการศูนย์กระจายสินค้า เพื่อให้บริการเก็บสินค้าสำเร็จรูปจากกระบวนการผลิต รวมถึงบริหารจัดการขนส่งสินค้าที่ PSP ผลิต

และบริการสุดท้าย คือการให้บริการจัดการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นการให้บริการจัดการด้านการขนส่งทางบกข้ามพรมแดน (Cross Border) ระหว่างประเทศไทยและประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย เช่น ประเทศเมียนมา ประเทศลาว และประเทศมาเลเซีย และการบริการจัดการส่งสินค้าทางเรือ และทางเครื่องบิน

นอกจากนี้ PSP ยังมีการให้บริการ E-commerce Platform ที่ดำเนินการโดยบริษัทร่วม เพื่อให้บริการแพลตฟอร์ม ในชื่อ EGG Mall สำหรับซื้อ-ขายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร เพื่อเป็นศูนย์กลางการซื้อขายให้ผู้ประกอบการค้าปลีก อู่ซ่อมรถยนต์และธุรกิจประกันภัย ปัจจุบันมีอู่ซ่อมรถยนต์และธุรกิจประกันภัยเป็นสมาชิกกว่า 20,000 ราย (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย.65)

นอกจากการดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแล้ว จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ PSP คือ การมีฐานการผลิตขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ และความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจและการเติบโตในอนาคต ส่งผลให้มีข้อได้เปรียบในด้านต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนการผลิตสินค้า เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ

สำหรับทิศทางการเติบโตและเป้าหมายของ PSP ในอนาคต PSP มุ่งมั่นที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดผ่านการรักษามาตรฐานการผลิตและการบริการ และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มความหลากหลายโดยการขยายฐานผลิตภัณฑ์ (Product Portfolio) ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีโอกาสเติบโตและทำกำไรได้สูง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ (Bio Transformer Oil) น้ำมันผสมยางชีวภาพ (Bio Rubber Process Oil) ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันอเนกประสงค์ (Multipurpose Oil) และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร (Industrial Food Grade Lubricant) เป็นต้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับภาครัฐ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ และพันธมิตรที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระดับสากล

นอกจากนี้ PSP มุ่งเน้นการวิจัยเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดย PSP มีศูนย์ Technology และ R&D ที่มีมาตรฐานสากล พร้อมด้วยทีมนักวิจัยที่ชำนาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจมาดูแลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รองรับเทคโนโลยี มาตรฐานใหม่ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสทางการตลาดในอนาคต

ด้วยจุดเด่นและศักยภาพข้างต้นทำให้ PSP มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2562 มีรายได้ 8,522.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 295.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ เท่ากับ 3.5% ปี 2563 มีรายได้ 6,986.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 299.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.3% ปี 2564 มีรายได้ 10,076.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 400.0 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.0% งวด 6 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. 65 มีรายได้ 6,800.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 371.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 5.5%

โดยในปี 2562-2564 รายได้รวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 8.7% และกำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 16.3% และสำหรับไตรมาส 2 ปี 2565 รายได้รวมมีอัตราการเติบโต อยู่ที่ 35.2% และกำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 26.5%

ซึ่งจากรายได้และกำไรย้อนหลัง จะเห็นได้ว่า PSP มีพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง และไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยยะสำคัญ ต่อเศรษฐกิจที่ผันผวน ทั้งจาก COVID-19 หรือปัญหารัสเซีย ยูเครน ในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด PSP อยู่ในกระบวนการจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งจากการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ ไปใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินซึ่งรวมถึงเงินกู้ยืมที่ใช้สำหรับการเข้าซื้อกิจการของ U.C. Marketing และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ PSP ได้ที่
https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=451885&lang=th

Reference
- ร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มของ PSP ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th

ที่มา: https://www.longtunman.com/42001