PSP คว้า CG Rating 5 ดาว ตอกย้ำมาตรฐานกำกับดูแลกิจการ เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน สู่การเติบโตยั่งยืน | P.S.P. Specialties

PSP คว้า CG Rating 5 ดาว ตอกย้ำมาตรฐานกำกับดูแลกิจการ เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน สู่การเติบโตยั่งยืน

บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร คว้าผลประเมินการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance Report: CGR) ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ประจำปี 2568 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ด้วยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นับเป็นการยกระดับจากปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับคะแนนในระดับ 4 ดาว หรือ “ดีมาก” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ PSP ในการพัฒนาระบบกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่งควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP กล่าวว่า การได้ประเมินการกำกับดูแลกิจการยกระดับจาก 4 ดาว หรือ “ดีมาก” ในปีที่ผ่านมา สู่ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ในปี 2568 นี้ มาจากการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนปี 2567 ที่ครอบคลุมมากขึ้นในทุกมิติ รวมถึงการปรับปรุงการดำเนินงานด้านบรรษัทภิบาล และการเปิดเผยข้อมูลให้สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน (CG Code) ตลอดจนการพัฒนาแนวปฏิบัติต่าง ๆ ในการดำเนินงานให้ตอบสนองต่อเกณฑ์การประเมินของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ได้ดียิ่งขึ้น

“ในปีที่ผ่านมา PSP ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการดำเนินงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาลอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการประเมินเทียบตามเกณฑ์ CGR ของ IOD และปรับปรุงรูปแบบการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปี รวมทั้งในแบบ 56-1 One Report ให้สะท้อนการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น” นายเสกสรร อธิบาย

นายเสกสรร กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล อาทิ การเปิดเผยข้อมูลข้อร้องเรียนด้านทุจริตและการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การเข้าร่วมทบทวนแผนกลยุทธ์และติดตามผลการดำเนินงาน รวมถึงการเปิดเผยคุณสมบัติกรรมการแต่ละท่าน เพื่อให้การสรรหากรรมการสอดคล้องกับทิศทางธุรกิจ ในด้านระบบบริหารความเสี่ยง PSP ได้พัฒนาแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) สู่ระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCM) ให้สอดคล้องกับข้อกำหนด ISO22301:2019 เพื่อเพิ่มความพร้อมในการรับมือเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน

นอกจากนี้ PSP ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย โดยเผยแพร่หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นและเอกสารประกอบการประชุมให้ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 28 วัน ก่อนการประชุม เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีเวลาเพียงพอในการพิจารณาวาระการประชุมและข้อมูลประกอบการประชุม ในส่วนของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ได้จัดให้มีคณะทำงาน เพื่อดูแล ตรวจสอบ และติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย PDPA ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังส่งเสริมความรู้ด้านความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity ผ่านการอบรมการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับพนักงานในองค์กร

สำหรับการพัฒนาด้านบรรษัทภิบาลขององค์กรในปีที่ผ่านมา PSP ได้จัดอบรมด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี จรรยาบรรณทางธุรกิจ การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การใช้ข้อมูลภายใน การต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน และการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด รวมทั้งให้พนักงานตอบแบบสอบถามด้านจริยธรรม เพื่อเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการปฏิบัติตามจริยธรรมในที่ทำงาน และเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงนโยบายด้านจริยธรรมของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การประเมินบรรษัทภิบาลประจำปี 2568 ดำเนินงานโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยมีบริษัทจดทะเบียนรวมประเมินถึง 844 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) 626 บริษัท และใน MAI 219 บริษัท การได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ระดับ 5 ดาวครั้งนี้ ช่วยเสริมความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย ที่มีต่อ PSP โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายรักษามาตรฐานด้านการดำเนินงานและการเปิดเผยข้อมูล พร้อมพัฒนาระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีให้สอดคล้องตามเกณฑ์การประเมินระดับสากลต่อไป